ครีมทาผิว บำรุงผิวหน้าและผิวกาย พร้อม 10 ประโยชน์ เห็นผลจริง
หลายคนคงคุ้นเคยกับการเลือกใช้ครีมทาผิวมาบ้างแล้ว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งในปัจจุบันครีมทาผิว ยังมีให้เลือกใช้มากมายหลายแบรนด์และหลากหลายประเภท เพื่อให้คนที่รักสุขภาพผิวสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพผิว วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับครีมทาผิว ที่คุณจำเป็นต้องรู้มาฝากกัน พร้อมรู้ถึง 10 ประโยชน์ ที่เห็นผลจริง จากครีมทาผิว
สรุปโดยย่อ:
เคล็ดลับ:
เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยครีมทาผิว ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันปัญหาผิวมากวนใจ เพราะความชุ่มชื้นคือ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ และชุ่มชื้น ซึงจะช่วยให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพผิวที่ดี
ครีมทาผิว คือ อะไร
ครีมทาผิว คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่มีส่วนประกอบทั้งน้ำมันและน้ำ ผ่านกระบวนการที่รวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเนื้อครีมที่มีความข้น ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งเวลาเช้าและกลางคืน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์ และขึ้นอยู่กับสภาพผิวที่มีความแตกต่างของแต่ละคน สิ่งสำคัญของผลิตภัณฑ์ครีมทาผิว ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่ยังช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และฟื้นบำรุงผิวหยาบกร้านให้เนียนนุ่ม เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผิวนั่นเองส่วนผสมของครีมทาผิว
ครีมทาผิวแต่ละผลิตภัณฑ์ จะมีสูตรส่วนผสมแตกต่างกันทั้ง สี กลิ่น และสารที่นำมาเป็นส่วนประกอบ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะมีส่วนผสมดังต่อไปนี้
- น้ำ ครีมบำรุงส่วนใหญ่เป็นสารประกอบระหว่างน้ำกับน้ำมัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว เพราะน้ำจะระเหยไปอย่างรวดเร็ว เมื่อทาลงบนผิว จึงจำเป็นต้องมีน้ำมันช่วยโอบอุ้มน้ำเอาไว้ให้ผิวดูดซึมน้ำในครีมได้มากขึ้น
- สารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน น้ำผึ้ง วิตามินบี 5 ซอร์บิทอล และยูเรีย ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดความชุ่มชื้นจากอากาศและชั้นหนังแท้มาไว้ที่ชั้นหนังกำพร้า
- ไขมัน หรือ น้ำมันบำรุงผิว เป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้เลย เพราะจะช่วยชดเชยชั้นไลปิดแบริเออร์ ที่ถูกทำลายไปจากไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในระหว่างวัน ช่วยทำให้ปราการปกป้องผิวแข็งแรงขึ้น ซึ่ง ไขมัน หรือ น้ำมันที่จะช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง อาทิ เซราไมด์ คลอเรสเตอรอล และ แฟตตี้แอซิด
- วิตามินบำรุงผิว เช่น วิตามินบี 5 ที่มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี หรือ วิตามินอี ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว เป็นต้น
- เมนทอล บางผลิตภัณฑ์ อาจใส่เมนทอลเป็นส่วนประกอบในครีมบำรุง เพราะมีสรรพคุณบรรเทาอาการคัน ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นหลังทา
เลือกใช้ครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
ผิวทั่วไป
ควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำและซิลิโคนชนิดเบา เช่น ไดเมทิโคน (Dimethicone) หรือ ไซโคลเมทิโคน (Cyclomethicone) เพราะมีเนื้อบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันผิว
ผิวมัน
ผู้ที่มีผิวมัน ควรใช้ครีมบำรุงเพื่อปกป้องผิวหลังล้างหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น โดยเลือกครีมเนื้อโลชั่นที่ระบุไว้ว่าเป็นสูตร oil-free หรือ ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว
ผิวแห้ง
ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่ทำมาจากปิโตรเลียมบนผิวหนังบริเวณที่แห้งและหยาบกร้านมาก เพราะมีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวได้นาน
ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย
ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิว เช่น คาโมมายล์ ว่านหางจระเข้ เป็นต้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่แต่งสี สารกันเสีย เช่น พาราเบน และ สารแต่งกลิ่น หรือมีกรดเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนภายนอก ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีผื่นแดง ตุ่มนูน รู้สึกคัน หรือแสบผิวได้ง่าย
ครีมทาผิวยอดนิยม แนะนำโดยเภสัชกรชั้นนำ
ครีมทาผิวหน้าและกาย สำหรับผิวแห้ง - แห้งมาก
แนะนำ เซราวี มอยสเจอร์ไรซิ่ง ครีม ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ด้วยประสิทธิภาพในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพร้อมฟื้นบำรุงปราการปกป้องผิว เพื่อผิวหน้าและลำตัวที่แห้งถึงแห้งมากโดยเฉพาะ เนื้อครีมเข้มข้นไม่เหนียวเหนอะหนะและซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ควบคุมและค่อย ๆ ปล่อยสารสำคัญอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชม.
- ไฮยาลูรอนิคแอซิด ช่วยเติมน้ำและความชุ่มชื้นกับผิวเพื่อผิวอิ่มน้ำ
- อ่อนโยนต่อผิวไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ไม่ก่อให้เกิดอาการแห้งและระคายเคือง
- เซราไมด์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว สินค้าเซราวีมีส่วนประกอบของเซราไมด์ที่สกัดจากพืชถึง 3 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเซราไมด์ที่ขาดหายไปในผิวที่มีปัญหาแห้ง แดง ไม่สบายผิว
ครีมทาผิวหน้าและกาย สำหรับผิวผสม - ผิวมัน
แนะนำ เซราวี เดลี่ มอยสเจอร์ไรซิ่ง โลชั่น ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของมอยสเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ปราศจากน้ำมัน ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและฟื้นบำรุงปราการผิวตามธรรมชาติ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือการระคายเคือง
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ควบคุมและปล่อยสารสำคัญอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชม.
- ไฮยาลูรอนิคแอซิด ช่วยเติมน้ำและความชุ่มชื้นกับผิวเพื่อผิวอิ่มน้ำ
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน สูตรไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เซราไมด์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว สินค้าเซราวีมีส่วนประกอบของเซราไมด์ที่สกัดจากพืชถึง 3 ชนิดที่จำเป็นต่อผิว ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเซราไมด์ที่ขาดหายไปในผิวที่มีปัญหาแห้ง แดง ไม่สบายผิว
5 ขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวให้กระจ่างใสสวยสุขภาพดี
การดูแลผิวให้กระจ่างใสสวยสุขภาพดีนั้น สามารถทำได้ด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
1.ล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำ
การล้างหน้าเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการทำความสะอาดผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง เครื่องสำอาง และน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว
ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว ฝ้า กระ เป็นต้นควรล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
2.ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันก่อนออกแดดอย่างน้อย 15 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหากเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ ควรทาใหม่ทันที
3. ทามอยส์เจอไรเซอร์
มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เนียนนุ่ม และเปล่งปลั่ง
4. ผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ
การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพออกไป และเผยเซลล์ผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสขึ้น ควรผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและดูสดใสอยู่เสมอ
ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากพืชหรือสัตว์
10 ประโยชน์จากครีมทาผิวยืนยันโดยผู้เชี่ยวชาญ
เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
ใครที่ต้องทำงานในห้องแอร์ ผิวอาจเกิดความแห้ง เราจึงต้องเติมความชุ่มชื้นคืนให้แก่ผิว ด้วยการทาครีม โดยส่วนใหญ่มักจะผสมมอยเจอร์ไรเซอร์หรือสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อป้องกันผิวจากการสูญเสียน้ำ
บำรุงผิวที่หยาบกร้าน
แม้ว่ามองรวม ๆ แล้วผิวของเราจะดูเนียนนุ่ม แต่ก็ยังมีบางจุดต่าง ๆ ของร่างกายที่มีความหยาบกร้านอยู่ เช่น ตามข้อศอก หัวเข่า หรือส้นเท้า เราจึงต้องบำรุงด้วยโลชั่นทุกจุด เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสทั่วทั้งตัว
ผลัดเซลล์ผิวเก่า
โดยปกติผิวจะมีวงจรของการผลัดเซลล์ผิว แต่บางครั้งวงจรอาจเกิดขึ้นช้า จนทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น ผิวหมองคล้ำ การหาครีมทาผิวมาทาเป็นประจำ โดยเฉพาะ ครีมที่มีส่วนผสมของ วิตามิน บี5 จะช่วยให้เซลล์ผิวเก่าหลุดง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสและแข็งแรงขึ้น
ปรับสภาพผิวหน้า
ครีมทาผิวบางประเภทมีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพผิวหน้าได้ เช่น ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของ วิตามิน C เนื่องจากวิตามินซีจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเมลานินใต้ชั้นผิวได้ดี จึงช่วยเรื่องปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส และไม่เป็นอันตรายต่อผิว
เพิ่มความขาวกระจ่างใส
ครีมทาผิว ยังมีคุณสมบัติช่วยในปรับสีผิวให้ขาวสว่างกระจ่างใสขึ้น โดยเฉพาะ ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ แอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำหรือผิวไหม้จากการถูกแสงแดดทำร้ายเป็นเวลานาน
ป้องกันรังสี UV
นอกจากครีมทาผิว จะช่วยแก้ไขผิวที่หมองคล้ำจากการถูกแดดเผาแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีอีกด้วย โดยต้องเลือกผลิตภัณฑ์ครีมทาผิวที่มีสารกันแดดผสมอยู่ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงเพียงพอ เหมาะกับไลฟ์สไตล์การออกแดด ของเรา และมีค่า PA อย่างน้อย +++ เพื่อป้องกันการทำร้ายจากรังสี UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
ปลอบประโลมอาการคัน ระคายเคือง
การทาครีมทาผิวเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยปลอบประโลมผิวจากอาการคันและการระคายเคืองได้ เพราะครีมทาผิวจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน หากทาหลังอาบน้ำ จะสามารถช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวนานขึ้นด้วย
ผิวกระชับ ไม่หย่อนยานเร็ว
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ผิวหย่อนคล้อย คือ การดูแลผิวอย่างเหมาะสมด้วยการทาครีมที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นจำ เพราะจะเพิ่มความยืดหยุ่นและช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ เพพไทด์ จะช่วยเติมเต็ม ไฮยาลูรอนในผิว หรือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้
เพิ่มความผ่อนคลาย
ครีมทาผิวที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สามารถช่วยสร้างความผ่อนคลายแก่ผิวได้ เช่น น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ควรเลือกกลิ่นที่ชอบ เพื่อสร้างความผ่อนคลายด้วยการใช้กลิ่นบำบัด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบรรเทาความเครียด และเพิ่มความผ่อนคลายให้ร่างกายที่ได้ผลดี
ป้องกันสิ่งสกปรกได้
เนื่องจากครีมทาผิว จะทำหน้าที่เป็นฟิล์มคลุมผิวชั้นนอก เวลาที่เราเผชิญกับสิ่งสกปรกหรือมลภาวะต่าง ๆ ครีมทาผิวจะเป็นด่านแรกก่อนที่สิ่งสกปรกจะตกลงสู่ชั้นผิวข้างใน ดังนั้นครีมทาผิวจึงมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกที่จะเข้ามาสู่ผิวได้ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ยังมีครีมอีกหลายชนิดที่สามารถปกป้องผิวจากการเกาะติดของฝุ่น PM2.5 ได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้ครีมทาผิว
เภสัชกร บดินทร์ หลักทอง เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ จบการศึกษา เภสัชศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฉพาะทางสาขาเทคโนโลยีเภสัชกรรมเครื่องสำอาง และวิชาเลือกสาขาจุลชีววิทยา บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ความเชี่ยวชาญ/ผลงาน อดีตเภสัชกรให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ประจำร้านยา ประสบการณ์เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ กว่า 20 ปี
คำแนะนำจาก เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ครีมทาผิว ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำเเนะนำ จากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ดังต่อไปนี้
- ใช้ครีมในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรใช้ครีมบำรุงในปริมาณมากกว่าที่ฉลากกำหนด เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ สังเกตุง่าย ๆ เช่น ถ้าทาครีมแล้ว มีความมัน ความชุ่มชื่น หรือความลื่นมากเกินไปบนผิว นั่นคือ เราใช้ครีมบำรุงผิวมากเกินไปจนมีครีมส่วนเกินที่ผิวไม่สามารถดูดซึมได้หลงเหลืออยู่ และอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะอุดตันผิวได้อีกด้วย
- เลือกใช้ครีมให้เหมาะกับสภาพผิวโดยเราต้องรู้ว่าสภาพผิวของเราเป็น ผิวชนิดใด ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย และเลือกใช้ชนิดของ ครีม โลชั่น หรือเจล ให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การอุดตันรูขุมขน หรือ ได้รับความชุ่มชื้นที่ไม่เพียงพอ สภาพผิวของเราแต่ละคนไม่เหมือนมัน การใช้ครีมตามเพื่อนหรือคนรู้จัก หรือตามที่สื่อในอินเตอร์เน็ท แนะนำ อาจจะไม่เหมาะกับสภาพผิวของเราก็ได้
- ไม่ใช้มือตักครีมออกจากกระปุก ควรใช้ช้อนหรือไม้พายตักครีม ออกจากกระปุกแทนการใช้มือ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากมือปนเปื้อนในเนื้อครีม
- เก็บครีมในที่เย็น หลีกเลี่ยงความร้อน และแสงแดด เนื่องจากครีมหลายชนิดในปัจจุบัน พยายามหลีกเลี่ยง หรือใส่สารกันเสียที่น้อยลง ดังนั้น ควรเก็บในที่ที่อุณหภูมิไม่สูง หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อน และแสงแดดซึ่งจะทำให้ครีมเสื่อมสภาพเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องเก็บครีมในตู้เย็นเสมอไป